การใช้ Stochastic Oscillator ในการเทรดคอมโมดิตี้
Antreas Themistokleous
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดของ Exness
ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ
แชร์
ในคู่มือฉบับนี้:
- การทำความเข้าใจ Stochastic Oscillator เครื่องมือที่สำคัญในการเทรด
- วิธีการนำ Stochastic Oscillator ไปใช้ในการเทรดคอมโมดิตี้
- ข้อดีและข้อเสียของ Stochastic Oscillator
- การนำไปใช้จริงและกรณีศึกษาต่างๆ
- การใช้ Stochastic Oscillator ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- การใช้อินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator ในบัญชี Exness ของคุณ
หากคุณรู้จัก Stochastic Oscillator และสนใจเทรดคอมโมดิตี้ โปรดอ่านบทความนี้ต่อได้เลย สำรวจส่วนประกอบต่างๆ และประโยชน์จากการใช้เครื่องมือทางเทคนิคนี้เพื่อระบุโอกาสในการเทรดที่เป็นไปได้และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
การเทรดคอมโมดิตี้เป็นวิธีการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในคอมโมดิตี้ต่างๆ เช่น ทองคำ โลหะเงิน และก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ในตลาดที่ผันผวนและซับซ้อนเช่นนี้ มีเครื่องมือและเทคนิคมากมายที่คุณสามารถใช้จัดการกับความผันผวนเหล่านี้ได้ เครื่องมือหนึ่งที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ Stochastic Oscillator ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคนี้อย่างละเอียด พร้อมวิธีการนำไปใช้ในการเทรดคอมโมดิตี้
การทำความเข้าใจ Stochastic Oscillator เครื่องมือที่สำคัญในการเทรด
Stochastic Oscillator ได้รับการพัฒนาโดย George C. Lane ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 เป็นอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคตามโมเมนตัมที่ช่วยวัดความเร็วและทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา โดยการเปรียบเทียบราคาปัจจุบันของคอมโมดิตี้กับช่วงราคาในช่วงเวลาหนึ่ง Stochastic Oscillator ประกอบด้วยเส้นที่สำคัญสองเส้นคือ %K และ %D โดยเส้น %K แสดงราคาปิดล่าสุดเทียบกับช่วงราคา และเส้น %D ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยของ %K จะแสดงมุมมองที่ราบเรียบของความผันผวน
Stochastic Oscillator ทำงานบนหลักการที่ว่าระหว่างแนวโน้มราคาขาขึ้น ราคามักจะปิดใกล้จุดสูงสุดของช่วงราคา ซึ่งแสดงว่ามีโมเมนตัมฝั่งซื้อที่แข็งแกร่ง ในทางตรงกันข้าม ในตลาดที่มีแนวโน้มขาลง ราคาปิดมักจะปิดใกล้จุดต่ำสุดของช่วงการเทรด ซึ่งส่งสัญญาณถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
ส่วนประกอบและการคำนวณ
เพื่อทำความเข้าใจหลักการทำงานของอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคนี้ เราจำเป็นต้องศึกษาองค์ประกอบหลักทั้งสองอย่าง ดังนี้
เส้น %K เป็นส่วนประกอบหลักหรือข้อมูลดิบของ Oscillator ซึ่งคำนวณโดยใช้สูตร Stochastic Oscillator ดังนี้
%K = ((ราคาปิดปัจจุบัน - จุดต่ำสุดที่ต่ำที่สุด) / (จุดสูงสุดที่สูงที่สุด - จุดต่ำสุดที่ต่ำที่สุด)) * 100
โดย "จุดต่ำสุดที่ต่ำที่สุด" และ "จุดสูงสุดที่สูงที่สุด" แสดงราคาต่ำสุดและราคาสูงสุดในกรอบเวลาที่เลือก
เส้น %D เป็นเส้น %K ในเวอร์ชั่นที่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมให้เป็นเวอร์ชั่นที่ราบเรียบขึ้น โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของเส้นค่าเฉลี่ยของ %K ในช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดสัญญาณรบกวนและทำให้มองเห็นแนวโน้มของราคาโดยรวมได้ง่ายขึ้น
กราฟนี้แสดงจุดตัดของ Stochastic Oscillator