การเทรดคอมโมดิตี้ตามแนวโน้ม – ทำกำไรตามการเคลื่อนไหวของตลาด

Antreas Themistokleous

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดของ Exness

เริ่มเทรดเลย

ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ

แชร์

คุณเคยลองคิดจะใช้การเทรดคอมโมดิตี้ตามแนวโน้มเป็นวิธีการกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนของคุณหรือไม่

ยินดีต้อนรับสู่คู่มือที่มีเนื้อหาครอบคลุมรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเทรดตามแนวโน้มของคอมโมดิตี้ ซึ่งเป็นการทำกำไรจากโมเมนตัมของตลาดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับกลยุทธ์การเทรดทุกรูปแบบ การเทรดตามแนวโน้มมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงความซับซ้อนของการเทรดตามแนวโน้ม ทำความรู้จักหลักการสำคัญ ประเภทของแนวโน้ม ประโยชน์และข้อเสีย พร้อมกับสรุปสาระสำคัญของกลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มเพื่อความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น มาเริ่มกันเลย

รู้หรือไม่ว่าประโยคยอดนิยมในการวิเคราะห์ทางเทคนิคคืออะไร

แนวโน้มคือเพื่อนของคุณ

แต่คำกล่าวนี้มีความหมายอย่างไรกันแน่ ตามสาระสำคัญ คำกล่าวนี้หมายถึงคุณควรเทรดในทิศทางเดียวกับแนวโน้มปัจจุบันเสมอ แต่อาจทำได้ไม่ง่ายอย่างที่คิด

แนวทางนี้เกี่ยวข้องกับการระบุและทำกำไรจากทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง เทรดเดอร์ตามแนวโน้มจึงจะต้องมุ่งเทรดตามโมเมนตัมด้วยการปรับเปลี่ยนการเทรดให้สอดคล้องกับแนวโน้มปัจจุบันของตลาด ซึ่งอาจทำให้ได้ผลตอบแทนมหาศาล

การทำความเข้าใจหลักการสำคัญของการเทรดตามแนวโน้ม

การเทรดตามแนวโน้มตั้งอยู่บนหลักการพื้นฐานของตลาด นั่นคือการมีอยู่ของแนวโน้ม ซึ่งแบ่งได้เป็นสามประเภทหลักๆ ดังนี้

แนวโน้มขาขึ้น (ตลาดกระทิง)

แนวโน้มนี้เกิดขึ้นเมื่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวขึ้นเป็นแนวโน้มอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง แนวโน้มขาขึ้นมีลักษณะเด่นที่กราฟราคามีการทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและมีจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น หากต้องการวาดเส้นแนวโน้มขาขึ้นอย่างถูกต้อง คุณต้องวาดเส้นตรงเชื่อมต่อด้านล่างของแท่งเทียนต่างๆ ดังที่แสดงในกราฟด้านล่าง

ในกราฟราคานี้ เราจะเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน เส้นแนวโน้มเกิดจากการลากเส้นเชื่อมต่อด้านล่างของแท่งเทียน

แนวโน้มขาลง (ตลาดหมี)

ในทางตรงกันข้าม แนวโน้มขาลงเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์ตกลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงขาลง คุณจะเห็นจุดต่ำสุดที่ต่ำลงและจุดสูงสุดที่ต่ำลง หากต้องการวาดเส้นแนวโน้มขาลงที่ถูกต้อง คุณต้องเชื่อมต่อด้านบนของแท่งเทียน ดังที่แสดงในกราฟด้านล่าง

ในแนวโน้มขาลง จะลากเส้นด้วยการเชื่อมต่อด้านบนของแท่งเทียน

การเคลื่อนไหวแนวข้าง (ตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบหรือไซด์เวย์)

บางครั้ง ราคาของสินทรัพย์อาจผันผวนภายในกรอบแคบๆ ซึ่งเรียกว่าการเคลื่อนไหวแนวข้าง (ไซด์เวย์) หรือตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ โดยไม่มีแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจน

ในการสร้างกรอบราคา เราจะต้องเชื่อมต่อจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ราคามีการตอบสนองซ้ำๆ หลายครั้ง โดยจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเล็กๆ เหล่านี้สร้างการเคลื่อนไหวแนวข้าง

การเคลื่อนไหวแนวข้าง (ตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบหรือไซด์เวย์)

แนวคิดหลักของการเทรดตามแนวโน้มคือการระบุแนวโน้มสำคัญในปัจจุบันและใช้กลยุทธ์วางสถานะการเทรดให้สอดคล้องกับทิศทางของแนวโน้มนั้น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ใช้บ่อยที่สุดซึ่งคุณสามารถใช้ระบุและยืนยันแนวโน้มคือเส้นค่าเฉลี่ย เส้นแนวโน้ม และอินดิเคเตอร์โมเมนตัมต่างๆ เทรดเดอร์ตามแนวโน้มควรฝึกฝนการเข้าตลาดเมื่อเกิดแนวโน้มและออกจากตลาดเมื่อสังเกตเห็นการกลับตัวหรือการหมดกำลังของแนวโน้ม

ข้อดีของกลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม

การเทรดตามแนวโน้มมีข้อดีมากมายที่ทำให้กลยุทธ์นี้ได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์จำนวนมาก ประโยชน์ที่สำคัญของกลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มมีดังนี้

1. กำไรที่จะได้รับ

การเทรดตามแนวโน้มที่แข็งแกร่งอาจสร้างกำไรมหาศาล ในฐานะเทรดเดอร์ตามแนวโน้ม หากราคาปรับตัวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้อย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถเกาะติดการเคลื่อนไหวของราคานั้นได้นานและได้กำไรอย่างมาก บางครั้ง แนวโน้มอาจคงอยู่เป็นเวลานาน ทำให้คุณสามารถถือสถานะได้นานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือนานกว่านั้น หากคุณพบและเทรดตามแนวโน้มระยะยาวอย่างถูกต้อง กลยุทธ์ระยะยาวนี้อาจทำกำไรให้คุณได้เป็นอย่างดี

2. การตัดสินใจที่ไม่ซับซ้อน

การเทรดตามแนวโน้มช่วยให้การตัดสินใจของเทรดเดอร์เป็นเรื่องง่าย กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มอาศัยสัญญาณภาพที่ชัดเจนจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค คุณจึงสามารถระบุแนวโน้มและตัดสินใจเทรดได้ง่ายๆ จากรูปแบบที่ง่ายต่อการจดจำ

3. ลดผลกระทบจากสัญญาณรบกวนของตลาด

หนึ่งในความท้าทายที่คุณอาจพบในฐานะเทรดเดอร์คือสัญญาณรบกวนของตลาดที่มักเกิดขึ้นเมื่อราคามีความผันผวนของแนวโน้มในระยะสั้น ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การเทรดตามแนวโน้มสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ เพราะเทรดเดอร์ตามแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับแนวโน้มในภาพกว้างและทิศทางโดยรวมของราคา ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่เสถียรและน่าเชื่อถือกว่า

4. การใช้ประโยชน์จากการเงินเชิงพฤติกรรม

เมื่อคุณเทรดตามแนวโน้ม คุณจะสามารถใช้ประโยชน์จากอคติของการเงินเชิงพฤติกรรมได้ ดังนั้นเมื่อตลาดคิดว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อ คุณสามารถเทรดในทิศทางดังกล่าวได้ โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับแนวโน้มนั้นเข้ามาช่วย

5. ลดความถี่ในการเทรด

เมื่อเทียบกับการเทรดรายวันหรือกลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มระยะสั้นอื่นๆ การเทรดตามแนวโน้มจะมีการเปิดปิดคำสั่งน้อยครั้งกว่า ส่งผลให้ต้นทุนธุรกรรมลดลง และเป็นประโยชน์ต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของคุณ

ข้อเสียของการเทรดตามแนวโน้ม

แม้ว่าการเทรดตามแนวโน้มจะมีประโยชน์ที่น่าดึงดูดใจมากมาย แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณกำลังคิดจะใช้กลยุทธ์นี้ คุณจำเป็นต้องทราบถึงข้อเสียดังต่อไปนี้

1. ช่องโหว่ในการกลับตัวของแนวโน้ม

แนวโน้มไม่ได้คงอยู่ตลอดกาล เหตุการณ์ตลาดที่ไม่คาดคิดหรือการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นอาจทำให้แนวโน้มกลับตัวอย่างเฉียบพลัน หากคุณไม่คาดการณ์หรือตอบสนองเมื่อแนวโน้มกลับตัวได้ทันเวลา คุณก็อาจสูญเสียเงินอย่างรวดเร็ว

2. การเคลื่อนไหวของราคาในวงจำกัด

ในตลาดการเงินที่ผันผวนหรือไม่สามารถคาดการณ์ได้ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไร้ทิศทาง ซึ่งอาจเกิดสัญญาณหลอกที่ส่งผลให้เทรดเดอร์ตามแนวโน้มขาดทุนหรือพลาดโอกาสในการเทรด เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวไปมาในกรอบแคบ

3. การเข้าและออกเทรดที่ล่าช้า

เมื่อใช้กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม คุณจะต้องระบุแนวโน้มก่อนเข้าเทรด ดังนั้น คุณอาจเข้าถือสถานะหลังจากเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์เทรดตามแนวโน้มที่ตอบสนองเร็วกว่า ซึ่งอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไรตั้งแต่เนิ่นๆ

4. การพลาดโอกาสในตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ

การเทรดตามแนวโน้มจะมีประสิทธิภาพน้อยลงในตลาดการเงินที่มีลักษณะการเคลื่อนไหวแนวข้าง ซึ่งราคาขาดทิศทางที่ชัดเจน เทรดเดอร์ตามแนวโน้มอาจพลาดโอกาสในการทำกำไรในช่วงการสร้างฐานหรือมีความไม่แน่นอน

5. โอกาสเกิดการขาดทุนครั้งใหญ่

หากแนวโน้มกลับตัวกะทันหัน คุณอาจเผชิญกับผลขาดทุนอย่างหนัก หากไม่ออกจากการเทรดโดยเร็วหรือไม่มีกลยุทธ์การเทรดตรงข้ามแนวโน้มที่พร้อมดำเนินการ คุณจึงจำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เช่น คำสั่ง Stop Loss เพื่อลดโอกาสขาดทุน

6. การอ้างอิงข้อมูลในอดีต

การวิเคราะห์แนวโน้มอาศัยข้อมูลราคาในอดีตเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต แต่ในตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิธีนี้อาจไม่เหมาะสมเนื่องจากรูปแบบในอดีตอาจไม่ต่อเนื่องหรือเกิดซ้ำ เทรดเดอร์ตามแนวโน้มจึงต้องคำนึงถึงข้อนี้เมื่อใช้การวิเคราะห์แนวโน้ม

7. การเทรดมากเกินไปในช่วงที่แนวโน้มผันผวน

ในตลาดคอมโมดิตี้ที่มีแนวโน้มระยะสั้น ซึ่งล่อตาล่อใจให้คุณต้องการคว้าโอกาสในทุกความผันผวนของราคาจนคุณอาจเทรดมากเกินไป แต่การทำเช่นนี้อาจทำให้ต้นทุนธุรกรรมของคุณสูงขึ้นและอาจลดกำไรของคุณลง

12 กลยุทธ์เทรดเพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จในการเทรดตามแนวโน้ม

คุณสามารถปรับปรุงการเทรดประเภทนี้และลดการขาดทุนได้โดยใช้เคล็ดลับเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

1. การวิเคราะห์ในหลายกรอบเวลา

การวิเคราะห์แนวโน้มในกรอบเวลาต่างๆ อาจช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของทิศทางตลาดได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้ใช้เพื่อระบุแนวโน้มโดยรวมและช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าและออกจากตลาดอย่างแม่นยำ

2. อินดิเคเตอร์ยืนยัน

คุณสามารถลดสัญญาณหลอกได้โดยใช้อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคหรือรูปแบบกราฟอื่นๆ เพื่อช่วยยืนยันอินดิเคเตอร์แนวโน้มก่อนเข้าเทรด การทำเช่นนี้เป็นการตรวจสอบความถูกต้องอีกขั้นหนึ่งและเพิ่มโอกาสการเทรดที่ประสบผลสำเร็จ

3. การจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด

การใช้กฎการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงการตั้งคำสั่ง Stop Loss เพื่อจำกัดผลขาดทุนที่อาจได้รับ และควรกำหนดขนาดสถานะตามเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่ใช้เทรด การทำเช่นนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษาเงินทุนในช่วงเวลาที่สภาพตลาดไม่เอื้ออำนวยได้

4. ติดตามข้อมูลอยู่เสมอ

ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และข่าวสารตลาดอยู่เสมอ เพื่อให้มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในการเทรดตามแนวโน้มระยะสั้น ปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย การพัฒนาทางการเมือง และการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดได้ คุณสามารถดูข้อมูลอัปเดตทั้งหมดนี้ได้ในปฏิทินทางเศรษฐกิจของ Exness

5. ความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน

เทรดเดอร์ตามแนวโน้มที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป คุณสามารถจัดการความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเปิดใจเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

6. การวิเคราะห์และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้เทรดตามแนวโน้มอย่างเชี่ยวชาญ คุณต้องพร้อมมุ่งมั่นทำการวิเคราะห์และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การติดตามแนวโน้มล่าสุด เครื่องมือการเทรด และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ หมั่นทบทวนและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณตามข้อมูลใหม่ๆ เป็นประจำ เพื่อการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น รับข่าวสารตลาดที่เกี่ยวข้องและข้อมูลอัปเดตของบริษัททั้งหมดได้ในที่เดียวจากบล็อก Exness

7. การทดสอบและการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต

ก่อนใช้กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม คุณจำเป็นต้องทำการทดสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดในอดีตอย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงการทดสอบกลยุทธ์ของคุณกับข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ การทดสอบจะช่วยให้คุณสามารถระบุจุดอ่อน ปรับปรุงแนวทางของคุณ และมีความมั่นใจในกลยุทธ์ของตนเองมากขึ้น

8. การกระจายความเสี่ยงในการเทรด

แม้ว่าการเทรดตามแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับการเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคาโดยเฉพาะ แต่ก็จำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนของคุณไปยังสินทรัพย์หรือตลาดที่หลากหลาย เพื่อลดผลกระทบจากการกลับตัวของแนวโน้มในครั้งเดียวที่มีต่อผลการเทรดโดยรวมของคุณ

9. ความอดทนและความมีวินัย

ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของราคาทุกครั้งจะเป็นแนวโน้ม และบางครั้ง แนวโน้มก็ไม่ได้ส่งผลให้การเทรดได้กำไร คุณจะต้องอดทนต่อความต้องการไล่ตามทุกโอกาสที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งรอจนกว่าจะมีแนวโน้มที่ได้รับการยืนยันและแข็งแกร่ง

10. ความยืดหยุ่นทางจิตใจ

อาจเป็นเรื่องยากที่จะจัดการอารมณ์ในการเทรด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การเทรดไม่ให้ผลลัพธ์อย่างที่คุณคาดหวัง การมีจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถสงบนิ่ง มีเหตุผล และตื่นตัว ไม่ว่าตลาดจะเป็นไปในทิศทางที่คุณต้องการหรือไม่ ในฐานะเทรดเดอร์ตามแนวโน้ม คุณมักจะให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้ของแนวโน้มในระยะยาวและจิตวิทยาจะมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจเทรดที่ดี

11. เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ

คุณสามารถทำให้ขั้นตอนการเทรดตามแนวโน้มของคุณมีประสิทธิภาพขึ้นได้โดยใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มการเทรดสามารถช่วยคุณระบุแนวโน้ม ดำเนินการเทรด และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่อย่าลืมว่าคุณจำเป็นต้องเข้าใจเครื่องมือที่ใช้อยู่ด้วย อย่าอาศัยระบบอัตโนมัติมากเกินไปโดยไม่เข้าใจกลยุทธ์ของคุณอย่างถ่องแท้

12. หลีกเลี่ยงการไล่ตามเลเวอเรจที่สูง

แม้ว่าเลเวอเรจอาจช่วยให้กำไรมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้ขาดทุนมากขึ้นด้วยเช่นกัน คุณจึงควรระมัดระวังเมื่อใช้เลเวอเรจ เนื่องจากการใช้เลเวอเรจมากเกินไปอาจนำไปสู่ผลขาดทุนมหาศาลที่ยากจะฟื้นตัวกลับมาได้ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Exness สามารถปกป้องบัญชีของคุณจากบาลานซ์ที่ติดลบ

พัฒนาการอย่างต่อเนื่องของการเทรดตามแนวโน้ม

เช่นเดียวกับกลยุทธ์การเทรดอื่นๆ การเทรดตามแนวโน้มไม่ใช่แนวคิดคงที่ แต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของตลาด ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก คุณจะต้องเตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มของคุณไปตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ กลยุทธ์ที่เคยใช้ได้ผลดีในสภาพตลาดหนึ่งอาจใช้ได้ไม่ดีนักในอีกสภาพตลาดหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น เราจำเป็นจะต้องเข้าใจว่าไม่มีกลยุทธ์การเทรดใดที่ไม่มีข้อผิดพลาด แม้แต่เทรดเดอร์ตามแนวโน้มที่มีประสบการณ์สูงก็อาจประสบผลขาดทุนได้ กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดตามแนวโน้มระยะยาวคือการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ การดำเนินการอย่างมีวินัย และการมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

คำถามที่พบบ่อย

วิธีการเทรดตามแนวโน้มเกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์หนึ่ง กลยุทธ์นี้อาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลราคาในอดีตเพื่อระบุและติดตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยและอินดิเคเตอร์การเทรดตามแนวโน้มยอดนิยมอื่นๆ เช่น Bollinger bands เพื่อระบุความเร็วและคาดการณ์ทิศทางที่เป็นไปได้ของราคาหลักทรัพย์

เทคนิคการเทรดยอดนิยมนี้สามารถทำกำไรได้เมื่อนำไปใช้อย่างถูกต้อง โดยเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและเข้าเทรดตามทิศทางของแนวโน้ม คุณสามารถใช้เทคนิคนี้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย ดัชนี RSI (Relative Strength Index) และเส้น MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อกำหนดแนวโน้มและทำการตัดสินใจเทรด

แนวโน้มมีสามประเภทคือแนวโน้มขาขึ้น (ราคาเพิ่มขึ้น) แนวโน้มขาลง (ราคาลดลง) และการเคลื่อนไหวแนวข้าง (ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างมีนัยสำคัญ) คุณสามารถเทรดตามแนวโน้มด้วยการถือสถานะ Long (การซื้อสินทรัพย์) ในแนวโน้มขาขึ้นหรือสถานะ Short (การขายสินทรัพย์) ในแนวโน้มขาลง คุณสามารถเริ่มเทรดด้วยการเปิดบัญชีทดลองหรือบัญชีซื้อขายจริงกับ Exness

พร้อมเทรดตามแนวโน้มหรือยัง

การเทรดตามแนวโน้มเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน เนื่องจากมีโอกาสทำกำไรอย่างมากและสามารถตัดสินใจได้ค่อนข้างง่าย จึงเป็นที่สนใจของเทรดเดอร์มากมาย แน่นอนว่าการเทรดตามโมเมนตัมของตลาดนั้นมีข้อดีมากมาย แต่คุณจะต้องศึกษาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการกลับตัวของแนวโน้ม ความผันผวนของตลาด และการพลาดโอกาสในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเทรดตามแนวโน้มและลดความเสี่ยงต่างๆ เทรดเดอร์จึงควรใช้แนวทางหลากหลายประกอบกัน ทั้งการวิเคราะห์ในหลายกรอบเวลา การใช้อินดิเคเตอร์โมเมนตัมการเทรดเพื่อยืนยัน เช่น ดัชนี RSI (Relative Strength Index) หรืออินดิเคเตอร์โมเมนตัมตามแนวโน้ม MACD การจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การรู้จักปรับตัวอย่างเหมาะสม และการใช้กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มต่างๆ ร่วมกัน

ลงทะเบียนกับ Exness วันนี้และตัดสินใจเทรดโดยมีข้อมูลครบถ้วนด้วยความมั่นใจ ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ล้ำสมัยและสภาพแวดล้อมในการเทรดที่เหนือกว่าเพื่อการเทรดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่าพลาดโอกาสทำความรู้จักตลาดอย่างถูกต้องนี้ ลงทะเบียนตอนนี้และเริ่มเทรดคอมโมดิตี้กับโบรกเกอร์ที่ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจ

แชร์


เริ่มเทรดเลย

ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ