รอบรู้ศาสตร์แห่งการเทรดคริปโตรายวัน: กลยุทธ์ เคล็ดลับ และข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
Stanislav Bernukhov
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดอาวุโสของ Exness
ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ
แชร์
ในคู่มือฉบับนี้:
- การเทรดรายวันคืออะไร
- รูปแบบการเทรดแบบรายวันสำหรับคริปโตประเภทที่ 1: การเทรดแบบ Scalping
- รูปแบบการเทรดแบบรายวันสำหรับคริปโตประเภทที่ 2: การ เทรดทำกำไรระยะสั้นรายวัน
- กลยุทธ์การเทรดรายวันสำหรับการเทรดคริปโต
- ความท้าทายในการเทรดคริปโตรายวัน
- ภาวะการเทรดมากเกินไปในการเทรดรายวัน
- เครื่องมือทางการเงินที่ควรเลือกใช้ในการเทรดรายวัน
- การเทรดรายวันหรือการเทรดระยะยาวที่เหมาะกับคุณ
- หากต้องการเริ่มเทรดคริปโตรายวัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มากประสบการณ์หรือเพิ่งเริ่มเทรดคริปโต คำแนะนำนี้ก็เหมาะกับคุณ ในคำแนะนำฉบับนี้ เราจะกล่าวถึงกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดที่ใช้ในการเทรดรายวัน โดยเน้นไปที่คริปโตเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ รวมถึงข้อดีและความท้าทายของการเทรดรายวันกับคริปโต
การเทรดรายวันคืออะไร
ก่อนที่เราจะลงลึกในหัวข้อนี้ เรามาดูความหมายของศัพท์คำนี้กันก่อน การเทรดรายวันคือ อะไร การเทรดรายวันคือการซื้อและขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้น คู่สกุลเงิน คอมโมดิตี้ หรือคริปโตเคอร์เรนซี ภายในวันที่มีการซื้อขายเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการรับความเสี่ยงของตลาดในช่วงข้ามคืน
รูปแบบการเทรดแบบรายวันสำหรับคริปโตประเภทที่ 1: การเทรดแบบ Scalping
รูปแบบการเทรดรายวันที่เคลื่อนไหวรวดเร็วที่สุดคือการเทรดแบบ Scalping โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
การเทรดแบบ Scalping มาจากห้องค้าแบบเก่าที่มีการทำข้อตกลงกันด้วย "การส่งคำสั่งซื้อขายด้วยการตะโกนส่งสัญญาณมือ (Open Outcry)" เทรดเดอร์ในห้องค้าที่เป็น Scalper จะนั่งอยู่ตรงข้ามกับโบรกเกอร์ที่ดำเนินการคำสั่งของลูกค้า นั่นเป็นเหตุผลที่อีกชื่อหนึ่งของ Scalper คือ "ผู้ดูแลสภาพคล่อง" (Market Maker)
ปัจจุบัน Scalper เป็นเทรดเดอร์บนหน้าจอปกติที่ใช้เลเวอเรจสูงและเทรดอย่างรวดเร็ว เพื่อพยายามเทรดตามโมเมนตัมระยะสั้นหรือเทรดการกลับตัวของราคาใกล้ระดับแนวรับหรือแนวต้าน โดยปกติแล้ว Scalper จะถือสถานะเป็นวินาทีหรือนาทีเท่านั้น
คริปโตเคอร์เรนซีได้ชื่อว่าค่อนข้างมีความผันผวนเทียบกับกลุ่มสินทรัพย์อื่นๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เช่น ในฤดูร้อนปี 2023 ความผันผวนของ Bitcoin อยู่ในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และตลาดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก เวลาเช่นนี้เหมาะกับการเทรดแบบ Scalping เนื่องจากเทรดเดอร์สามารถเทรดได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความผันผวนต่ำ เพราะ Scalper ไม่ได้ต้องการกำไรจำนวนมากและอาจออกจากต ลาดเมื่อมีกำไรเล็กน้อยเพียงไม่กี่ปิ๊ป
ตัวอย่างการเคลื่อนไหวกลับตัวน้อยๆ ที่เทรดเดอร์รายวันและ Scalper สามารถเทรดได้
ข้อดีและข้อเสียในการเทรดแบบ Scalping ด้วยคริปโต
ข้อดีของการเทรดแบบ Scalping
- การเทรดแบบ Scalping อาจเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างบัญชีให้เติบโตหากทำอย่างเหมาะสม
- Scalper มีปริมาณการเทรดสูงกว่าเทรดเดอร์ประเภทอื่น เนื่องจากเมื่อเทรดมากขึ้น ก็จะมีโอกาสได้กำไรมากขึ้น
- Scalper ไม่แบกรับความเสี่ยงจากการถือสถานะข้ามคืน ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในคริปโต เพราะราคาอาจดิ่งลงกะทันหันในเวลากลางคืน
- Scalper ทำงานเฉพาะเมื่ออยู่หน้าจอเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องถือสถานะและตกเป็นเหยื่อให้กับความผันผวนที่ไม่คาดคิด
ข้อเสียของการเทรดแบบ Scalping
- ต้องอาศัยสติและสมาธิอย่างมาก
- วิธีนี้มีต้นทุนสูงกว่าต้นทุนการเทรดปกติ (ในรูปแบบของสเปรด) ตลาดคริปโตมีต้นทุนสูงกว่าต้นทุนปกติ เนื่องจากคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดสกุลเงินตรา ผู้ดูแลสภาพคล่องในคริปโตจึงมักจำเป็นต้องเรียกเก็บสเปรดที่สูงกว่าเมื่อเทรด BTC, ETH และสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงกัน
- Scalper ทั่วไปต้องมีอัตราการทำกำไรสูงจึงจะมีกำไรมากพอ
- ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนที่ มีราคาแพงกว่าสำหรับ Scalper เมื่อเทียบกับเทรดเดอร์ประเภทอื่น เนื่องจากโอกาสทำกำไรของ Scapler มีจำกัด จำนวนการเทรดที่ได้กำไรจะต้องสูงเสมอ
การเทรดแบบ Scalping มักเป็นรูปแบบที่แนะนำสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า เนื่องจากต้องอาศัยปริมาณการซื้อขายสูงและต้นทุนที่สูง และจำเป็นต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดขณะที่เปิดคำสั่งซื้อขายอยู่ ไม่ว่าคุณจะเทรดคริปโตหรอกลุ่มสินทรัพย์อื่นๆ ที่ Exness เราขอแนะนำให้ทดลองเทรดในบัญชีทดลองหรือบัญชี Standard Cent ก่อน